ร้านนกหวีดพลัส

บทความ

ผ้าไหมยกดอกลำพูน เครื่องหมาย GI

06-04-2561 14:18:48น.


GI (Thai Geographical Indication) ผ้าไหมทอมือยกดอกลำพูนมหัศจรรย์ไหมไทย


ผ้าไหมยกดอกลำพุูนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาวลำพูนที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ลวดลายอันวิจิตรและความประณีตงดงามของผืนผ้า เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นหาได้ยาก การทอผ้ายกดอก จะมีเทคนิคการทอที่ยุ่งยาก ซับซ้อน ต้องอาศัยทักษะความชำนาญของช่างทอ ลวดลายบนผืนผ้าจึงสอดแทรกจิตวิญญาณของช่างทอไว้ในผืนผ้าเหล่านั้นและสร้างคุณค่าทางจิตใจกับผู้ที่ได้ครอบครอง องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนตระหนักในคุณค่าการอนุรักษ์สืบสานภูมิปัญญาด้านการทอผ้าด้วยมือจึงได้สนับสนุนผลักดันกลุ่มผู้ประกอบการ
แต่ละช่างทอในจังหวัดลำพูน โดยการนำผ้าไหมยกดอกลำพูนไปจดทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ GI (Geographical Indication) เพื่อคุ้มครองชื่อเสียงและผลักดันด้านการตลาดให้กว้างไกลมากขึ้น สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ GI เป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่ผู้จดทะเบียนหรือใช้จะต้องมีการผลิตในแหล่งที่มาหรือแหล่งภูมิศาสตร์ที่มีความเฉพาะเท่านั้นผู้ใดจะแอบอ้างหรือผลิตภัณฑ์เหมือนกันไม่ได้ ดังนั้น การที่ได้ชื่อว่า ผ้าไหมยกดอกลำพูน ภายใต้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์นั้นก็เพราะผลิตในขอบเขตจังหวัดลำพูนเท่านั้น หากผลิตผ้าไหมประเภทอื่นในขอบเขตอื่นที่ไม่ใช่จังหวัดลำพูนก็จะไม่สามารถใช้ชื่อ "ผ้าไหมยกดอกลำพูน " ได้ ซึ่งเกณฑ์การได้มาซึ่งตราสัญญลักษณ์ GI นั้นผ้าไหมยกดอกลำพูนต้องผ่านการพิจารณา 4 ข้อสำคัญคือ
1. มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน 
2. มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ 
3. มีชื่อเสียงมายาวนาน
4. เป็นสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่น

ผ้ายกดอกเป็นผ้าไหมที่ทอยกลวดลายให้นูนสูงขึ้นกว่าผืนผ้า โดยเลือกยกบางเส้นและข่มบางเส้น แล้วพุ่งกระสวยไปในระหว่างกลางด้วยดิ้นเงินหรือดิ้นทองซึ่งเทคนิคการทอยก ผ้ายกเป็นผ้าโบราณที่อดีตใช้ในคุ้มเจ้า หรือในพระราชสำนักเท่านั้น ผ้าไหมยกดอกมีความหมายเดียวกับผ้ายกต่างกันที่การใช้ไหมพุ่งอาจจะใช้เส้นไหมสีต่าง ๆ แทนเส้นดิ้นในการทอผ้า คำว่า ยกดอก นั้นเพื่อบ่งบอกถึงเทคนิคที่ใช้ทอผ้าและบ่งบอกถึงลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของ ลำพูน รูปแบบการทอผ้ายกดอกลำพูนนั้นมีรูปแบบการทอโดยการใช้กี่พื้นเมือง (กี่กระทบหรือกี่มือ) ซึ่งมีทั้งกี่พื้นเมืองโบราณและกี่พื้นเมืองประยุกต์

วิธีการเลือกซื้อและตรวจสอบผ้าไหมยกดอกลำพูน GI โดยดูจากตราสัญญลักษณ์ GI ที่เย็บติดอยู่บนผ้าไหมซึ่งมี 2 แบบ คือ 
1. แบบที่เป็นผ้าและกระดาษแข็งที่มีรหัสสติ๊กเกอร์ GI จำนวน 8 หลักติดอยู่ซึ่งทำให้ตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าผลิตจากร้านใด โดยใคร เป็นผ้าประเภทไหน ลายอะไรราคาเท่าไหร่ 
2.ตรวจสอบได้จากระบบผ่านฐานข้อมูลเว็ปไซต์ www.gisilklamphun.go.th โดยการพิมพ์รหัส GI 8 หลัก ในช่องตรวจสอบหรือสแกนบาร์โค้ด 2D จากแท็กที่ติดอยู่หากเป็นผ้าไหมยกดอกลำพูน GI จะพบข้อมูลการผลิตผ้าชิ้นนั้นครบถ้วน

นอกจากนี้สามารถใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนหรือแท็บแล็ต สแกน QR Code


ที่มา :  http://oknation.nationtv.tv/…/countrygirl/2014/03/25/entry-1